ขับรถ 2000 กว่ากิโล 5 จังหวัด 8 วัน พาแม่ล่องใต้ (Southern Thailand) – ตอนที่ 1

ขับรถ 2000 กว่ากิโล 5 จังหวัด 8 วัน พาแม่ล่องใต้ (Southern Thailand) – ตอนที่ 1

ทริปนี้ เป็นทริปที่เราขับรถไปเที่ยวภาคใต้ 5 จังหวัด ภายในระยะเวลา 8 วัน นี่ก็ใกล้ปีใหม่แล้ว หลายๆ คนก็คงกำลังหาสถานที่ท่องเที่ยวกัน คนส่วนใหญ่ก็คงไปเที่ยวภาคเหนือ/อีสาน ขึ้นภูขึ้นเขา ปะทะความหนาว ชมทะเลหมอกกันแต่ถ้าใครอยากหลบหนาวก็ลองลงใต้กันบ้างก็ได้นะคะ ภาคใต้ในช่วงปีใหม่ก็ไม่ได้ร้อนเท่าช่วงเมษานะ ก็อย่างที่รู้กันว่าสภาพอากาศในภาคใต้ ถ้าอากาศไม่ร้อน ก็ร้อนมาก ไม่ก็ร้อนมากกกกกกกๆๆ แต่สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ก็สวยมากกกเช่นกันคะ ^^ การเดินทางของเราเริ่มตั้งแต่ 28 ธ.ค. 58 – 4 ม.ค. 59 ซึ่งเป็นช่วงวันหยุดยาวในเทศกาลปีใหม่ (งานดองเกือบปีเลยทีเดียว) เหตุผลที่ไปเที่ยวภาคใต้ก็คือ อยากจะพาแม่กับน้องไปเที่ยว และถือโอกาสกลับบ้านด้วยคะ
แผนการเดินทางของเรา
28 ธ.ค. 58 : เดินทางจากกรุงเทพฯ – สุราษฎร์ธานี
29 ธ.ค. 58 : เดินทางจากสุราษฎร์ธานี – นครศรีธรรมราช – สงขลา
30 ธ.ค. 58 : เดินทางจากสงขลา – ภูเก็ต
31 ธ.ค. 58 : เที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน – พังงา
1 ม.ค. 59 : เที่ยวเกาะตาชัย – พังงา
2 ม.ค. 59 : เดินทางจากภูเก็ต – สุราษฎร์ธานี
3 ม.ค. 59 : พักผ่อนที่บ้าน (สุราษฎร์ธานี)
4 ม.ค. 59 : เดินทางกลับกรุงเทพฯ1เริ่มวันแรกกันเลยยย : วันนี้เราจะเดินทางจากกรุงเทพฯ ถึง สุราษฎร์ธานี เดินทางออกจากกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 6 โมงเช้า ขับรถมาเรื่อยๆ ตามถนนทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดสมุทรสาคร > สมุทรสงคราม > เพชรบุรี ไหนๆก็ผ่านหัวหินแล้ว ขอแวะชมความยิ่งใหญ่ของ “อุทยานราชภักดิ์ฯ” กันซะหน่อย อุทยานฯกว้างใหญ่มาก คนส่วนใหญ่ก็ไปถ่ายรูปกัน ถ้าเข้าไปยืนใกล้ๆตัวเราเล็กนิดเดียวเลยคะ ที่นี่เราขอแค่ถ่ายรูป แวะชมแปปเดียวก็เดินทางต่อ
จากนั้นก็ผ่าน จ.ประจวบคีรีขันธ์ > ชุมพร > สุราษฎร์ธานี วันนี้รถไม่เยอะมาก ถ้าบางช่วงเวลารถอาจจะติดได้คะ เคยขับรถกลับบ้านช่วงสงกรานต์ ใช้เวลาประมาณ 12 ชั่วโมงเลยคะ เพราะรถติด เป็นการติดยาวนานมหาประลัยมาก – -” ระยะทางในวันนี้ขับไปประมาณ 600 กว่ากิโลเมตร อาจจะไม่ไกลสำหรับบางคนนะคะ แต่ขับรถระยะทางแบบนี้ก็เพลียได้เหมือนกัน แต่ก่อนเข้าตัวเมืองสุราษฎร์ฯ เราแวะเที่ยว “สวนโมกขพลาราม” กันก่อนคะ
281“สวนโมกขพลาราม” หรือชื่อเรียกทางการว่า วัดธารน้ำไหล จัดตั้งโดย พระพุทธทาสภิกขุ ตั้งที่เขาพุทธทอง ริมทางหลวงหมายเลข 41 บริเวณกิโลเมตร ที่ 134 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อให้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและสถานที่เผยแผ่พระพุทธศาสนา สามารถจอดรถที่ด้านหน้าวัดได้เลยคะ ที่นี่ร่มรื่น เย็นสบาย ตลอดทางเข้าจะมีคำสอนของท่านพระพุทธทาสติดที่ต้นไม้เต็มไปหมดเลยคะ เราเดินเข้าไปหอสมุดของท่านพระพุทธทาสกันก่อนคะ ด้านในมีหนังสือที่ท่านพระพุทธทาสเขียนไว้อยู่มากมาย จากนั้นก็เดินผ่านลานหินโค้ง ซึ่งเป็นลานที่เคยใช้นั่งฟังท่านพระพุทธทาสเทศน์ หรือใช้นั่งสมาธิ
ต่อไปก็เดินไปที่โรงมหรสพทางวิญญาณ หรือเรียกว่า โรงหนังสวนโมกข์ ซึ่งเป็นสถานที่บรรจุภาพวาดสอนธรรมะและเป็นที่รวบรวมภาพปริศนาธรรมต่างๆ โดยนำแนวคิดมาจาก การไปดูภาพในถ้ำอชันตา ที่ประเทศอินเดีย ด้านหลังโรงมหรสพฯ เมื่อก่อนเป็นบ่อเลี้ยงเต่า แต่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสวนหินแล้วคะ และเมื่อเดินออกจากโรงมหรสพฯ ฝั่งตรงข้าม คือ ทางขึ้นไปโบสถ์ของสวนโมกข์ เดินขึ้นไปนิดเดียวก็ถึงคะ ซึ่งท่านพระพุทธทาสเคยพูดถึงโบสถ์ของสวนโมกข์ไว้ว่า “โบสถ์ที่จะอวดว่าถูกต้องตามพุทธประสงค์หรือเป็นแบบครั้งพุทธกาลดีที่สุด; แต่ไม่มีใครเอาอย่าง” โบสถ์ของสวนโมกข์ คือ ลานกว้างๆ มีต้นไม้ล้อมรอบ ที่นี่สงบร่มรื่นมาก บางคนก็ขึ้นมานั่งสมาธิ บางคนก็มากวาดใบไม้ที่ลาน
ถ้าใครได้มีโอกาสไปสวนโมกข์และได้หยุดอ่าน หยุดคิดไต่ตรองคำสอนต่างๆ ของท่านพระพุทธทาสตามสถานที่ต่างๆ เมื่อเดินออกจากที่นี่ เราเชื่อว่าทุกคนคงได้แง่คิดอะไรดีๆ ในการใช้ชีวิตแน่นอน ที่นี่ดีต่อจิตใจจริงๆคะ ถ้าใครไม่มีโอกาสได้มาที่นี่ ก็สามารถไปเที่ยวชมสวนโมกข์ที่สวนรถไฟได้นะ ที่นั่นก็สงบร่มรื่นเหมือนกันคะ282ตอนเย็นเรามานั่งเล่นที่ริมแม่น้ำตาปี อากาศตอนเย็นสบายดีคะ มีคนออกกำลังกาย คนนั่งเล่นกันตลอดริมทางเดิน ถ้าเป็นวันอาทิตย์ตอนเย็น ที่สวนสาธารณะศรีตาปี จะมีตลาดคนเดิน มีขนมของกินขายเยอะมาก จุดที่นั่งริมแม่น้ำตาปี จะขนานกับถนนหน้าเมือง จากสี่แยกท่ากูบ ขับรถต่อไปประมาณ 3-4 กิโลเมตรก็ถึงคะ
มื้อเย็นของวันนี้ขอตบท้ายด้วย ร้าน “ตี๋ ข้าวต้มปลา” หรือตอนนี้อาจจะเรียกว่า “เจ้หมวย ข้ามต้มปลา” ร้านนี้มีสโลแกนตามเว็บ คือ ปลาไม่สด ร้านไม่เปิด ซึ่งเป็นร้านที่ต้องรอคะ รอปลาสด บางครั้งร้านปิดติดต่อกันเป็นอาทิตย์เลยคะ อาหารที่นี่จะเป็นเมนูเกี่ยวกับปลากะพง เท่าที่เคยกินมามีเพียง 3-4 เมนูเท่านั้นคะ มีข้าวต้มปลากะพง เนื้อปลากะพงทอด/ลวก ต้มหัวปลากะพง รสชาติและราคา : จานละ 100 – 250 บาท อร่อยสมราคา! เนื้อปลาสดจากทะเล และชิ้นปลาไม่บางแบนเหมือนผ้าอนามัยแน่นอนคะ ร้านเปิดประมาณ 5-6 โมงเย็น และร้านอาจจะปิดประมาณ 4-5 ทุ่ม ขายจนกว่าปลาจะหมดคะ แนะนำให้ไปตั้งแต่ช่วงร้านเปิดคะ เพราะคนเยอะมากกกก283สถานที่ต่างๆที่เราไปส่วนใหญ่ก็สามารถเสิร์จหาตำแหน่งกันได้ใน Google Map เลยนะคะ แต่สำหรับบางที่ก็ขอบอกพิกัดไว้คะ เผื่อใครหาไม่เจอ ^^
พิกัดสถานที่ต่างๆ
สวนโมกขพลาราม   9.358806, 99.171822
ริมแม่น้ำตาปี   9.1348196,99.3165398
ตลาดคนเดิน (สวนสาธารณะศรีตาปี)  9.133959, 99.314124
ร้านเจ้หมวย ข้าวต้มปลา   9.139371, 99.340595

วันที่สอง : เราจะเดินทางจากสุราษฎร์ธานี ผ่านนครศรีธรรมราช และหยุดพักที่สงขลา เช้านี้ออกเดินทางตั้งแต่ 6 โมงเช้า โดยใช้เส้นทางหมายเลข 401 ถนนสุราษฎร์ฯ-นครศรีฯ เป็นเส้นทางเดียวกับทางไปลงเรือข้ามไปเกาะสมุยคะ ขับรถประมาณ 140 กิโลเมตร เราก็มาถึงวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.นครศรีธรรมราช สามารถจอดรถด้านในวัดได้ และเราก็เดินไปไหว้พระ ทำบุญกันด้านในวัด ใครที่อยากซื้อเครื่องเงินหรือของพื้นเมืองประจำจังหวัด สามารถดูได้ที่ร้านขายของพื้นเมืองใกล้ๆโบสถ์คะ เมื่อออกจากวัด เราไปเที่ยวต่อกันที่ “บ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์” ซึ่งอยู่เยื้องๆกับวัดพระมหาธาตุฯ สามารถจอดรถได้ทางด้านหลังของบ้านท่านขุนฯ ค่าเข้าชม ฟรี และเราก็กินข้าวเที่ยงกันที่นี่เลยคะ สามารถอ่านประวัติได้ที่เว็บนี้ >>> http://www.baantankhun.com291ได้เวลาเดินทางกันต่อคะ ระยะทางจากวัดพระมหาธาตุฯ ถึงท่าแพขนานยนต์ ประมาณ 160 กิโลเมตร เราจะใช้เส้นทางหมายเลข 408 ซึ่งเป็นเส้นทางเลียบทะเลคะ แต่มีบางช่วงของเส้นทางก่อนเข้าสงขลา มีการก่อสร้างขยายถนนกันอยู่คะ ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าตอนนี้สร้างเสร็จรึยัง?? แต่จุดประสงค์ของเรา คือ จะใช้แพขนานยนต์ข้ามไปสงขลาคะ (หรือใครจะใช้เส้นทางหมายเลข 41 ก็ได้คะ เส้นนี้จะผ่านจ.พัทลุง) ประมาณบ่ายสามโมง เราก็มาถึงท่าแพขนานยนต์ฝั่งเขาแดง จากนั้นก็ขับรถไปต่อคิว ซื้อตั๋วลงแพกันคะ อาจจะใช้เวลาขึ้น-ลง ประมาณ 20 – 30 นาที ค่าบริการรถยนต์ : 20 บาท/ครั้ง ผู้โดยสารฟรี ให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 5.00-22.00 น.292293เมื่อเราข้ามมาถึงฝั่ง จ.สงขลาแล้ว ต่อไปเราจะไปขึ้นเขาตังกวน เพื่อชมวิวของเมืองสงขลา ในช่วงเย็นเราก็จะไปนั่งเล่นที่หาดสมิหลา และคืนนี้เราจะนอนกันที่ อ.หาดใหญ่ ระยะทางจาก อ.เมืองสงขลา ถึง อ.หาดใหญ่ ประมาณ 30 กิโลเมตร เขาตังกวน คือ ภูเขาลูกเล็ก ๆ แต่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองฯ โดยเขาตังกวนนั้นเป็นเนินเขาสูงจากระดับทะเลประมาณ 2,000 ฟุต จากยอดเขาตังกวนนี้มีลานชมวิวเขาตังกวนที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ของเมืองสงขลาได้โดยรอบ กลายเป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวเมื่อเดินทางมาเยือนสงขลาคะ เราจอดรถข้างถนนที่ด้านหน้าจุดบริการลิฟต์โดยสารคะ ลงจากรถก็เจอลิงเยอะแยะเต็มไปหมดเลยคะ
วิธีการขึ้นเขาตังกวนมี 2 วิธี
1. ขึ้นลิฟต์โดยสารจากจุดบริการลิฟต์โดยสาย ณ บริเวณถนนตัดระหว่างเขาตังกวนและเขาน้อย ค่าบริการ ผู้ใหญ่คนละ 30 บาท เด็ก 20 บาท โดยเปิดบริการในวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-19.00 น. และในวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ 8.00-19.00 น.
2. ใครอยากออกกำลังกายขาก็สามารเดินขึ้นบันไดฝั่งตรงตะวันตก ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามลิฟต์โดยสาร ตลอดระยะทางมีบันไดหิน สลับกับจุดพักและจุดชมวิวเป็นช่วงๆ294มื้อเย็นของวันนี้เราจะขับรถข้ามไปเกาะยอ เพื่อไปกินอาหารทะเลกันที่ร้าน ศิรดา เกาะยอ เรามาถึงที่ร้านก็มืดแล้ว ถ้าได้มานั่งตั้งแต่ตอนเย็น คงได้นั่งชมวิวทะเลกันคะ ที่นี่เค้าจะเลี้ยงปลากะพงกันในทะเลคะ ขนาดใหญ่มาตรฐาน สั่งมาตัวนึง สามารถแบ่งแยกทำได้ 2 เมนู ส่วนเราสั่งปลากะพงทอดทั้งตัวเลยคะ (ตอนหลังมาคิดใหม่ว่าน่าจะสั่ง ปลากะพงทอด กับ แกงส้มปลากะพง – -“) รสชาติและราคา : อาหารอร่อย ราคาก็เหมาะสมคะ295พิกัดสถานที่ต่างๆ
วัพระมหาธาตุวรมหาวิหาร   8.411012, 99.966206
บ้านท่านขุนรัฐวุฒิวิจารณ์   8.409533, 99.967414
แพขนานยนต์   7.221070, 100.574520
เขาตังกวน   7.210195, 100.589438
ร้านอาหาร ศิรดา เกาะยอ   7.172237, 100.546673


วันที่สาม : วันนี้เป็นวันที่เราไม่ได้แวะเที่ยว เพราะต้องเดินทางกันทั้งวัน จากอ.หาดใหญ่ ถึง จ.ภูเก็ต จึงมีรีวิวแค่เรื่องระหว่างการเดินทางเท่านั้นคะ >,< เช้านี้เราออกเดินทางสายนิดนึงคะ เพราะจะไปกิน แต่เตี้ยม (ติ่มซำ) และบ๊ะกุ๊ดเต๋ ร้านดังของหาดใหญ่ก่อน คือ ร้าน “โชคดี แต่เตี้ยม” สาขาที่เราไปกิน อยู่ใกล้โรงแรมไดอิชิ เปิดเช้าเย็น โดยเช้าเปิด ตั้งแต่เวลา 07.00 – 11.00 น. และเย็น ตั้งแต่เวลา 17.00 – 22.00 น. ทุกวัน แต่เตี้ยม ราคาเข่งละ 18 บาท บ๊ะกุ๊ดเต๋ เล็ก/ใหญ่ ถ้วยละ 100/300 บาท รสชาติความอร่อย : อร่อยคะ พูดแล้วก็อยากไปกินอีกคะ ^^
ร้านมี 3 สาขาคะ
– ร้านแรกดั่งเดิม ตั้งอยู่ที่ ถ.ละม้ายสงเคราะห์(คลองเตย) ใกล้โรงแรมไดอิชิ
– ร้านที่สอง ตั้งอยู่ที่ ฟู้ดคอร์ส รพ.สงขลานครินทร์ หรือ มอ.หาดใหญ่
– ร้านที่สาม ตั้งอยู่ที่ ถ.ธรรมนูญวิถี ใกล้บ้านนายกเคร่ง301
หลังจากที่เรากินแต่เตี้ยมร้านโชคดีแล้ว เราจะไปกินแต่เตี้ยมอีกร้านนึงคะ ซึ่งเป็นร้านที่ตอนเด็กๆ เราเคยไปกินบ่อย ร้านนี้ชื่อ “ผิงหยัง แต่เตี้ยม” หน้าร้านจะมีป้ายเขียนว่า อาหลินทัวร์ รสชาติความอร่อย : กินแล้วรู้สึกว่ารสชาติไม่เหมือนเมื่อก่อน – -” ออกจากร้านไปด้วยความอิ่มแน่น แต่ขอตบท้ายด้วยโรตีสักแผ่น เก็บพลังงานไว้ขับรถกันหน่อยคะ ร้านอยู่เยื้องๆกับร้านผิงหยัง ชื่อ “ร้านต้นตำหรับมุสลิม” แป้งเหนียวนุ่มอร่อย ราคาไม่แพงคะ

302เมื่อเราอิ่มกันแล้ว ก็ออกเดินทางออกจากหาดใหญ่กันคะ โดยใช้เส้นทางหมายเลข 4 ระยะทางประมาณ 150 กิโลเมตร เราก็ขับกันไปเรื่อยๆคะ ระหว่างทางจะผ่านจุดชมวิวผาพับผ้าด้วยคะ สามารถแวะพักกันตรงจุดนี้ได้คะ
เส้นทางขับสบาย รถไม่เยอะคะ แล้วเราก็ผ่านประตูสู่อันดามัน สองสามวันที่ผ่านมา เราเที่ยวทะเลฝั่งอ่าวไทย หลังจากนี้เราจะไปเที่ยวทะเลฝั่งอันดามันกันคะ ซึ่งมีความแตกต่างกัน ทั้งน้ำทะเล หาดทราย และอาหารทะเล
เมื่อมาถึง จ.ตรัง เราแวะไปซื้อ ขนมเปี๊ยะชื่อดังของจังหวัดก่อนคะ ร้านตั้งอยู่ที่ ซอยห้วยยอด 9 ปัจจุบันมีทั้งหมด 7 ไส้ คือ ไส้เผือกหอมไข่เค็ม ไส้ทุเรียนไข่เค็ม ไส้ถั่วแดงไข่เค็ม ไส้พุทราจีนไข่เค็ม ไส้ชาเขียวไข่เค็ม ไส้เม็ดบัว และไส้งาดำ ราคากล่องละ 120 บาท เปิดทำการทุกวัน เวลา 08:00-17:00 เราซื้อขนมเปี๊ยะไส้เผือกหอมไข่เค็มมา 2 กล่อง กินร้อนๆ อร่อยเหาะ ไส้ทะลักมาก
303โอเค! เดินทางกันต่อคะ ใช้เส้นทางเดิมคะ เส้นทางหมายเลข 4 เมื่อถึงทางแยกเทศบาลคลองเต็ง (7.639954, 99.587277) เราก็เลี้ยวซ้าย ใช้เส้นทาง 4158 เป็นเส้นทางผ่านสวนยาง ผ่านหมู่บ้านต่างๆ ถนนบางช่วงกำลังขยับขยายอีกแล้วคะ คาดว่าน่าจะเสร็จเร็ว ๆ นี้ เหตุผลที่ไม่ใช้เส้นทางหมายเลข 4 ตลอดทาง เพราะคิดว่ามันอ้อมเกินไปคะ ระยะทางจากตรัง – กระบี่ ประมาณ 130 กิโลเมตร รวมๆ แล้วขับทำเวลาได้โอเคเลยคะ (ปกติเป็นคนขับรถไม่เร็ว และไม่ชอบขับรถคะ ก็เลยต้องเผื่อเวลาสำหรับขับรถไว้เยอะ >.<) เมื่อมาถึงกระบี่ เราไม่ได้แวะเที่ยวที่ไหนเลยคะ แผนของเราคือ ตอนเย็นจะไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ …ไปกันต่อคะ เมื่อออกจากจังหวัดกระบี่ ถนนตลอดทางถึงภูเก็ต เป็นเส้นทางที่ดีเลยคะ ถึงแม้จะผ่านเขาบ้าง โค้งเยอะบ้างก็ตาม ระยะทางจาก กระบี่ – ภูเก็ต ประมาณ 180 กิโลเมตร แต่เราพลาดตรงที่เจอรถติดทางเข้าตัวอำเมืองภูเก็ต และประกอบกับที่น้องเราไม่สบาย ก็เลยอดไปดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพ  -.-” เอาภาพระหว่างทางให้ดูแทนนะ >,<304คืนนี้เราจะพักที่ Blu Monkey Bed & Breakfast Phuket ซึ่งอยู่ในตัวเมืองภูเก็ต ตั้งอยู่ใกล้เขารัง ที่พักสะอาดสบาย เงียบสงบ ราคาเป็นกันเอง มีบริการ Wi-Fi และที่จอดรถ สามารถจองผ่านเว็บจองที่พักต่าง ๆ ได้เลยคะ305พิกัดสถานที่ต่างๆ
โชคดี แต่เตี้ยม สาขาแรก 7.002008, 100.475953
ผิงหยัง แต่เตี้ยม  7.000559, 100.469960
ร้านโรตี ต้นตำหรับมุสลิม   7.000713, 100.470093
ขนมเปี๊ยะ ซอย 9   7.567694, 99.604013
Blu Monkey Bed & Breakfast Phuket 7.900113, 98.380721


จบตอนที่ 1 เราเที่ยวฝั่งอ่าวไทยกันแล้ว ต่อไป เราจะไปเที่ยวฝั่งอันดามันกันบ้างงง

machi-cat

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.