Category: Diary

#M0325Diary : Queen

#M0325Diary : Queen

วันนี้อยากเล่าเรื่องว่าด้วยวงควีน (Queen) เป็นวงดนตรีร็อคที่คนยุค 70-80 รู้จักกันเป็นอย่างดี ส่วนเราเกิดไม่ทันได้เห็นความโด่งดังของวงควีนและรู้จักเพลงของวงนี้เพียง 3 เพลงถ้วน คือ We will rock you และ We are the champions เพลงที่เรียกได้ว่าใครฟังครั้งแรกเป็นต้องติดหูเลยทีเดียว ส่วนอีกเพลงที่เราชอบดูเอ็มวี คือ I want to break free เพราะมีกลิ่นอายความเป็นยุคเก่าและมารู้ ในภายหลังจากการดูหนังว่า เคยโดนห้ามโปรโมทเพราะคนในวงแต่งตัวเป็นผู้หญิง คาดว่าสมัยนั้นเพศที่สามยังไม่ได้เป็นยอมรับมากนัก ในเอ็มวีเพลงนี้ทำให้เราเกิดความสนใจในตัวเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ นักร้องนำของวง บุคคลิกที่โดดเด่น ท่วงท่าและพลังในการร้องเพลงชวนดึงดูด ประกอบกับเสียงที่เพราะเป็นเอกลักษณ์และเคยอ่านเจอในภายหลัง (อีกครั้ง) ว่าเฟรดดี้เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูง สุภาพ เรียบร้อยและขี้อาย ซึ่งแตกต่างกับบุคคลิกที่อยู่บนเวที เมื่อไม่นานมานี้รู้ว่ามีหนังเรื่อง Bohemian Rhapsody เข้าฉาย เป็นหนังเกี่ยวกับวงควีนที่ถ่ายทอดผ่านมุมมองของเฟรดดี้ เมอร์คิวรี่ ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นมากและเป็นหนัง the must ที่ต้องไปดูในโรง แต่หนังไม่มีรอบฉายที่สุราษฎร์ฯ จึงรีบหาข้อมูลด่วนและพบว่าโรงหนังที่ฉายเรื่องนี้ที่ใกล้ที่สุด คือ เกาะสมุยและภูเก็ต … Continue reading #M0325Diary : Queen

#M0325Diary : ข้อสังเกต

#M0325Diary : ข้อสังเกต

มาคิดๆ ดู ช่วงเวลาเดินทางตลอด 6 ปีที่ผ่านมา ทั้งในไทยและต่างประเทศ มีทั้งทริปไปกับเพื่อน ไปกับครอบครัวและไปกันสองคน มีข้อสังเกตในการเดินทางหลายอย่าง จนบางอย่างกลายเป็นความชอบ และพอนานๆ ไปความชอบเหล่านั้นก็กลายเป็นนิสัยจนถึงตอนนี้ 1. เป็นคนที่ชอบเดินตามฝูงวิลเดอร์บีสตอนอพยพมาก ครือก็ไม่รู้จะเดินเร็วไปไหน จะว่ากลัวพลัดหลงจากฝูงก็ไม่ใช่นะ อันนี้กลายเป็นนิสัยที่เรียกว่าสันดานเลยดีกว่า เพราะจะไม่ชอบใจสักเท่าไรที่เห็นคนเดินเอื้อนเอ่ยเฉื่อยแฉะ อาการนี้ จริงๆ มันก็ไม่ดีเท่าไรหรอกนะ 2. บางช่วงเวลาก็จะหยุดเดินกระทันหัน แช๊ะถ่ายรูปเกสรดอกไม้แปปนึง แล้วคนข้างหลังก็หยุดเดินด้วย ครือถ้ามีเกสรสิบดอกอยู่ใกล้กันก็หยุดแบบนั้นสิบครั้ง ซ้ายขวาซ้าย หยุด ซ้ายขวาซ้าย หยุด คิดสภาพมีคนเดินตามหลังอีกสิบคนดูสิ เมริงเดินขบวนทำพิธีกรรมอะไรอยู่หรอ 3. บางครั้งก็ชิลมากจนเดินออกนอกลู่นอกทางไปแบบไม่ปรึกษาใคร หันหลังกลับมาอีกที อ๊ะ เดินตามมาด้วย เอ้าา กลับไปทางเดิมม เดินตามเรามาทามมายย โทษที พอดีเห็นใบไม้ตรงนู้นรูปร่างแปลกดี อยากถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึก เรามักจะวุ่นวายอยู่กับการถ่ายรูปจนลืมดูของจริงที่อยู่ตรงหน้า ช่วงหลังๆ ต้องบอกตัวเองก่อนตลอดว่า ยืนสงบนิ่งดูสิ่งแวดล้อมก่อนแล้วค่อยยกกล้องขึ้นมาถ่ายนะ 4. คิดไปเองว่าเป็นคนค่อนข้างแม่นยำในเส้นทาง ครือชอบดูแผนที่และเส้นทางแบบละเอียดก่อนไปเที่ยวทุกครั้ง แต่บางครั้งก็ชอบปล่อยตัวเองหลง เดินวนเวียนสามร้อยตลบในสถานที่เดิม เฮ้ย ดูตู้ปลาอันนั้นสิ เหมือนที่เห็นกันเมื่อกี้เรยเนาะ … Continue reading #M0325Diary : ข้อสังเกต

#M0325Diary : ชี้นำ

#M0325Diary : ชี้นำ

ตั้งแต่เริ่มเล่น WordPress ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เขียนบันทึกลงในนี้ ช่วงเวลาที่ผ่านมาได้แต่เขียนแชร์ข้อมูลการเดินทางนิดหน่อย ผสมกับความขี้เกียจก็หยุดๆ เขียนๆ มาโดยตลอด แล้วจู่ๆ ทำไมเริ่มเขียนล่ะ? เริ่มจากช่วงนี้กำลังอ่านหนังสือ "พี่ไปหลายวัน" ของคุณภูมิชาย บุญสินสุข เป็นหนังสือที่บันทึกเรื่องราวการไปเที่ยวญี่ปุ่น 30 วัน (ตอนนี้อ่านถึงวันที่ 5 แล้ว อ่านช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม) ขอสืบความยาวสาวความยืดก่อนนะว่า ซื้อหนังสือเล่มนี้มานานแล้ว เพิ่งนึกอยากอ่านบวกกับความคิดในสมองช่วงนี้ที่หมกมุ่นอยู่กับการวางแผนเดินทาง มีความคิดที่อยากจะไปนู้น ไปนี่ ไปนั่น ก็ยิ่งทำให้รู้สึกอยากอ่านหนังสือเกี่ยวกับการเดินทางขึ้นซะงั้น และญี่ปุ่นเป็นประเทศบนหิ้งที่คิดว่าจะไปทุกปี ถือว่าเป็นประเทศที่รู้สึกคุ้นเคย ซึ่งในคำนำของหนังสือเล่มนี้เขียนความคาดหวังไว้เพียง 2 ข้อ คือ ☀️ ข้อแรก ให้อ่านเพลินอ่านสนุก เริ่มอ่านตั้งแต่วันที่ 1 ก็รู้สึกสนุกแล้ว ปกติเราเป็นคนชอบหาข้อมูล วางแผนและออกเดินทาง ค่อนข้างเป็นคนที่ต้องมีข้อมูลอยู่ในมือระดับนึง ไม่ชอบไปตายเอาดาบหน้า หรือค่อยไปคิดแผนเที่ยวตอนนั้น ทำแบบนี้ทุกครั้งเพราะรู้สึกชอบการวางแผนเที่ยวจนรู้สึกว่าเป็นนิสัยอย่างนึงเลยก็ว่าได้ แต่หนังสือเล่มนี้เป็นการเที่ยวแบบไร้แพลน เรื่อยเปื่อยมากๆ และหลงเป็นว่าเล่น จุดนี้มันขัดกับนิสัยของเราไปเลย แต่การเล่าเรื่องมันชวนให้เราอยากอ่านต่อ มีเรื่องแปลกใหม่ในมุมมองที่ต่างจากเรา มีมุกตลกที่ไม่ตลก บางเรื่องไม่ใช่มุกแต่กลับตลก เฮ้ย … Continue reading #M0325Diary : ชี้นำ

เรื่องสั้น : เสียงสำนึก

เรื่องสั้น : เสียงสำนึก

ฉันกับสามีเพิ่งย้ายมาอยู่ห้องพักเล็กๆ ในอพาร์ทเม้นเก่าแห่งหนึ่งที่ห่างไกลจากตัวเมือง สภาพภายในห้องค่อนข้างคับแคบ แต่ก็เพียงพอที่จะให้เราสามคนได้หลบพักและหลีกหนีการทวงเงินของเจ้าหนี้ได้สักระยะหนึ่ง ภาระหนี้สินรุงรังที่เราสองคนได้ก่อไว้ ทำให้บ้านที่เคยอยู่ถูกธนาคารยึด รถที่เคยใช้ก็จำนำเสียจนไม่มีเงินไปไถ่คืน ถ้าหากรวมเงินที่เราสองคนหามาได้ก็แทบจะเดือนชนเดือน นับวันรายรับที่เคยมีก็ไม่เพียงพอต่อดอกเบี้ยที่ต้องจ่าย เมื่อไม่นานเราได้พลาดท่าให้กับนายทุนหน้าเลือดที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ แม้เราจะจ่ายเงินต้นครบ แต่ดอกเบี้ยแสนโหดก็ยังคงอยู่ ถ้าเราไม่มีเงินจ่ายพวกมัน สามีของฉันก็มักจะโดนซ้อมอยู่เป็นประจำ ยิ่งนานวันเข้าเราก็ยิ่งทนสภาพแบบนี้ไม่ไหว จึงตัดสินใจย้ายที่อยู่ใหม่เพื่อเป็นการยืดเวลาในการหาเงิน ฉันกับสามีจึงต้องทำงานอย่างหนักและเมื่อไหร่ที่พวกมันหาเราเจอ ก็ได้แต่หวังว่าตอนนั้นจะมีเงินมากพอที่จะจ่ายให้พวกมัน ไม่เช่นนั้น ฉันยังไม่รู้เลยว่าชะตากรรมของเราสามคนจะเป็นเช่นไร ใกล้จะเที่ยงคืนแล้วยังไม่มีวี่แววว่าสามีจะกลับห้อง แต่ฉันก็ยังคงนั่งรอเขาอยู่ที่โต๊ะกินข้าวเช่นเดิม จนป่านนี้อาหารที่ตั้งใจเตรียมไว้ให้เขาดูเย็นชืดและไม่เหลือความน่ากินอีกแล้ว ฉันเดินไปดูลูกน้อยที่หลับอยู่ในเปลอีกครั้งเพื่อแน่ใจว่าเสียงฟ้าร้องจะไม่ปลุกให้เธอตื่นขึ้นมากระทันหัน ใบหน้ายามหลับใหลของลูกสะท้อนความไร้เดียงสา เธอยังคงไม่รู้หรอกว่าจะพบเจอชะตากรรมเช่นใด “โธ่ ดวงใจของแม่ แม่สัญญาว่าจะพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ลูกได้มีชีวิตที่ดีนะจ๊ะ” ฉันพูดพร้อมทั้งน้ำตาและมองดูลูกน้อย จังหวะลมหายใจที่แผ่วเบาของเธอดูสงบคงที่ ช่างแตกต่างกับสายฝนที่โหมกระหน่ำของภายนอกเสียเหลือเกิน เขาคงติดฝนอยู่ที่ไหนสักแห่ง ฉันคิดในใจ . . ก็อก ก็อก ก็อก เสียงเคาะประตูห้อง ฉันลุกออกจากโต๊ะกินข้าวเพื่อเดินไปต้อนรับสามีที่กลับมาด้วยอารมณ์กึ่งดีใจ เมื่อเปิดประตูออกไปกลับพบผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าห้อง เขาทำให้หัวใจของฉันแทบจะหยุดเต้น ผู้ชายในชุดสูทสีดำสนิท ใบหน้าขาวซีด ริมฝีปากแดง ในมือถือหมวกสีดำ เขาไม่ใช่สามีของฉัน หรือจะเป็นเจ้าหนี้ “สวัสดีครับ” เขาพูดทักทาย “สวัสดีค่ะ คุณมาหาใครคะ?” ฉันถามด้วยความตื่นตระหนก “ผมมารับคุณเพื่อไปพบใครบางคนครับ” … Continue reading เรื่องสั้น : เสียงสำนึก

เรื่องสั้น : การเต้นรำในบทเพลงแห่งความทรงจำ

เรื่องสั้น : การเต้นรำในบทเพลงแห่งความทรงจำ

ย่านบางลำภูอากาศร้อนอบอ้าวเช่นทุกคืน เหงื่อซึมผิวกายจนต้องหยิบผ้าเช็ดหน้ามาซับตามซอกคอ มีบางช่วงที่สายลมอ่อนพัดมากระทบกาย มันช่วยคลายความร้อนภายในตัวลงได้บ้าง ร้านรวงต่างๆ เตรียมตัวเข้าสู่ภวังค์แห่งการหลับใหล หนุ่มสาวต่างชาติคู่หนึ่งกำลังมุ่งหน้าไปยังแหล่งรวมความบันเทิง ถนนของคนที่อยากหลบหลีกความจริงและเป็นพื้นที่แห่งความฝันของใครหลายคน ผมเดินตามถนนเส้นหลักก่อนตัดเข้าซอยเล็กๆ และหยุดยืนหน้าบาร์แห่งหนึ่ง ที่ดูไม่เป็นที่สังเกตของคนทั่วไปมากนัก ถึงอย่างไรเสีย การได้หยุดพักในสถานที่เงียบๆ และมีเบียร์เย็นๆ สักแก้วคงช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้บ้าง ผมคิดข้ออ้างเข้าข้างตัวเองก่อนที่จะก้าวเท้าเข้าไปภายในบาร์แห่งนี้ ด้านในของบาร์ตกแต่งเรียบง่าย เคาน์เตอร์ทำจากไม้ พื้นทางเดินฉาบด้วยปูนขัดมัน    ตามฝาผนังประดับด้วยรูปภาพดาราฝรั่งยุคเก่าหลายคน ภาพแรกที่สะดุดตาคงเป็นสายตาเซ็กซี่ของสาวทรงเสน่ห์คู่นั้น ที่ทำให้ใจของผู้ชายละลายได้ในชั่วพริบตา ถัดไปคือ ภาพราชาร็อคแอนด์โรลที่พ่อชอบเอาเพลงเขามาเล่นคู่กับแม่ในค่ำคืนแสนโรแมนติกที่สุด ถัดลงมาด้านล่างเป็นภาพรอยยิ้มนัยน์ตาหยี่ของชายผิวสีที่ในมือถือทรัมเป็ตสีเหลืองทอง เสียงแหบพร่าที่เป็นเอกลักษณ์ของเขาในบทเพลงแสนหวานได้บอกผมว่า ชีวิตนั้นงดงามเพียงใด ผมนั่งลงที่โต๊ะในมุมที่ดูหลบหลีกสายตาจากผู้คน ก่อนจะสั่งเบียร์เย็นๆ หนึ่งแก้ว ภายในร้านมีลูกค้าไม่มากนักและบนเวทีไม้มีหญิงสาวในชุดสีแดงยืนจับขาไมโครโฟนรอจังหวะและเริ่มเอื้อนเอ่ยถ้อยคำเป็นเพลง Someday ของ The Strokes ในสไตล์ Casablanca เสียงดนตรีที่สอดรับกับพลังเสียงของเธอสะกดใจให้คล้อยตามไปกับบทเพลงที่บอกเล่าความรู้สึกของคู่รัก   ที่เลิกรากัน ความสุขในการนึกถึงวันเก่าๆ เป็นเพียงการบรรเทาความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นหลังการจากลา ถึงแม้ทั้งสองฝ่ายจะพยายามปรับความรู้สึกได้ดีเพียงใด แต่การกลับมาเจอกันใหม่อีกครั้ง ก็อาจเป็นได้เพียงแค่คนแปลกหน้าของกันและกัน เนื้อเพลงแสนเศร้าในดนตรีแสนหวานช่วยให้เบียร์คืนนี้อร่อยเสียจริง ผมคิด ในขณะที่รู้สึกผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้าในการทำงาน บทเพลงหนึ่งก็ถูกบรรเลงขึ้นเป็นแนวเพลง Soul ดนตรีที่อยู่ในยุค Old Hollywood และด้วยเสียงที่ดูเหมือนกระซิบกระซาบ และลากยาวจนก้องกังวานจึงต้องหันกลับไปดูเวทีอีกครั้ง เพลงนี้ทำให้นึกถึงความฝันเรื่องหนึ่ง  … Continue reading เรื่องสั้น : การเต้นรำในบทเพลงแห่งความทรงจำ