เที่ยว Kyoto นั่งรถบัสยังไงดี?

เที่ยว Kyoto นั่งรถบัสยังไงดี?

topbusKyoto มักจะเป็นจุดหมายปลายทางของใครหลายคนที่จัดทริปเที่ยว Kansai วิธีการเดินทางภายใน Kyoto ส่วนใหญ่จะใช้รถบัสและรถไฟในการเข้าถึงสถานที่ต่างๆ แต่เส้นทางของรถบัสจะเข้าถึงสถานที่เที่ยวได้ละเอียดกว่ารถไฟ ในความเป็นจริงเราก็คงใช้ทั้งรถบัสและรถไฟเพื่อลดเวลาในการเดินทางและทำให้เรามีเวลาเที่ยวเพิ่มขึ้นอีกด้วย ซึ่งการเดินทางใน Kyoto ด้วยรถไฟนั้นไม่ยากเลยเพราะมีเส้นทางน้อย และการเดินทางด้วยรถบัสก็ไม่ได้ยากเช่นกัน ถึงแม้ในแผนที่จะมีสายรถบัสมากมายหลายสี แต่มันก็ครอบคลุมในทุกพื้นที่และทำให้สะดวกในการเดินทางด้วย ก่อนที่จะพูดถึงการเดินทางด้วยรถบัส เราขอพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ ในแต่ละโซนแบบคร่าวๆ เพื่อทำให้เห็นภาพรวมของ Kyoto กันก่อนว่าที่เที่ยวดังๆ อยู่ตรงไหนกันบ้าง …เริ่มกันเลย!!
Kyoto เคยเป็นเมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่นและมีสถานที่เก่าแก่ต่างๆ มากมายที่น่าสนใจ สถานที่บางแห่งยังถูกจัดอยู่ในกลุ่มมรดกโลกด้วย เช่น ปราสาท Nijo, วัด Kiyomizudera, วัด Ginkakuji (วัดเงิน), วัด Kinkakuji (วัดทอง), วัด Ryoanji เป็นต้น สถานที่ต่างๆ จะตั้งอยู่ทั่วทั้งเมือง Kyoto ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 5 โซน คือ
1. Central Kyoto (โซนกลาง)
map-central-kyoto(แผนที่จาก Japanguide)
central(ภาพจาก Google)
ปราสาท Nijo : เป็นปราสาทที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1603 เพื่อใช้เป็นที่พักของท่านโชกุน Tokugawa Ieyasu ซึ่งเป็นโชกุนคนแรกในสมัย Edo ซึ่งถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ Honmaru (ปราสาทชั้นใน) , Ninomaru (ปราสาทชั้นนอก), สวนและกำแพงหินที่ล้อมรอบปราสาททั้งหมด
ค่าเข้าชม : 600 เยน
เปิดทำการ : เวลา 08.45-17.00, ในส่วนของ Ninomaru (ปราสาทชั้นนอก) : 09.00-16.00
ปิดทำการ : ทุกวันอังคาร ในเดือนมกราคม, กรกฎาคม, สิงหาคม, ธันวาคม (หรือวันอังคารที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์) และ 26 ธันวาคม – 4 มกราคม
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Kyotoeki-mae นั่ง Kyoto City Bus สาย 9, 50, 101 ลงที่ Nijojo-mae ราคา 230 เยน หรือ จากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งรถไฟสาย Karasuma Line ไปลงที่สถานี Karasuma-Oike และเปลี่ยนสายเป็น Tozai Line ลงที่สถานี Nijojo-mae ซึ่งเป็นสถานีรถไฟที่เดินเข้าปราสาทได้ใกล้ที่สุด ราคา 260 เยน
พระราชวัง Imperial Kyoto : เคยเป็นสถานที่ประทับขององค์จักรพรรดิ์ของญี่ปุ่น เมื่อราชวงศ์และเมืองหลวงของญี่ปุ่นย้ายไปอยู่ที่ Kyoto จึงไม่ได้ใช้เป็นที่อยู่ของราชวงศ์อีกต่อไป สามารถเดินชมบริเวณสวนและอาคารต่างๆ ได้ แต่ไม่สามารถเข้าไปภายในตัวอาคารได้
ค่าเข้าชม : ฟรี
เปิดทำการ : เวลา 09.17.00 (เมษายน-สิงหาคม), 09.00-16.30 (กันยายนและมีนาคม) และ 09.00-16.00 (ตุลาคม-กุมภาพันธ์)
ปิดทำการ : ทุกวันจันทร์ (หรือวันจันทร์ที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์) 28 ธันวาคม -4 มกราคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งรถไฟสาย Karasuma Line ไปลงที่สถานี Marutamachi หรือสถานี Imadegawa (ใกล้ประตูเข้าพระราชวังมากกว่า) ราคา 260 เยน
พระราชวัง Sento Imperial : ตั้งอยู่ตรงข้ามกับพระราชวัง Imperial Kyoto สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1630 เพื่อใช้เป็นที่พักหลังเกษียณขององค์จักรพรรดิ์ Gomizuno และต่อมาภายหลังพระราชวังแห่งนี้ได้ใช้เป็นที่พักหลังการเกษียณของจักรพรรดิ์องศ์อื่นๆ
ค่าเข้าชม : ฟรี แต่ในการเข้าชมจะต้องจองล่วงหน้า โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ Imperial Household Agency’s office ใน Kyoto Imperial Park มีทัวร์เข้าชม 2 รอบต่อวัน คือ รอบ 11.00 และ 13.30
เปิดทำการ : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8.45 – 12.00 และ 13.00 – 17.00 (และเปิดวันเสาร์ในเดือนมีนาคม, เมษายน, พฤษภาคม, ตุลาคม, พฤศจิกายน)
ปิดทำการ : วันเสาร์-อาทิตย์ที่ตรงกับวันหยุดนักขัตฤกษ์ และ 28 ธันวาคม – 4 มกราคม
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งรถไฟสาย Karasuma Line ไปลงที่สถานี Marutamachi หรือสถานี Imadegawa ราคา 260 เยน

2. Eastern Kyoto (โซนตะวันออก) โซนนี้มีแต่สถานที่ที่น่าสนใจทั้งนั้นเลยฮะ สังเกตได้ว่าแต่ละที่จะอยู่ใกล้กันมาก
map-eastern-kyoto-1(แผนที่จาก Japanguide)
eastern-1(ภาพจาก Google)
ย่าน Gion : เป็นย่านเกอิชาที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Kyoto สองข้างทางจะมีร้านค้า ร้านอาหารมากมาย
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Kyotoeki-mae นั่ง Kyoto City Bus สาย 100, 206 ราคา 230 เยน หรือจากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งรถไฟสาย Keihan Line ลงที่สถานี Gion Shijo หรือ สาย Hankyu Line ลงที่สถานี Kawaramachi

วัด Ginkakuji : เป็นวัดนิกายเซน สร้างขึ้นโดยโชกุน Ashikaga Yoshimasa ต้นแบบของวัดแห่งนี้ได้รับอิทธิพลมาจากวัด Kinkakuji (วัดทอง)
ค่าเข้าชม : 500 เยน
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 08.30 – 17.00 (มีนาคม-พฤศจิกายน) และ 09.00 – 16.30 (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Kyotoeki-mae นั่ง Kyoto City Bus สาย 5, 17, 100 มาลงที่ Ginkakuji-michi ราคา 230 เยน
ทางเดิน Philosopher : เป็นทางเดินที่ปูด้วยหินและยาวขนานไปกับทางน้ำสายเล็กๆ สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นซากุระที่เรียงรายตลอดเส้นทาง และยังเป็นจุดชมซากุระที่สวยงามอีกจุดหนึ่งใน Kyoto
การเดินทาง : เดินจากวัด Ginkakuji ประมาณ 400 เมตร
วัด Eikando : เป็นวัด Zenrinji ของนิกาย Jodo ของพุทธศาสนาในญี่ปุ่น และเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงมากในการเที่ยวชมใบไม้เปลี่ยนสีในฤดูใบไม้ร่วง
ค่าเข้าชม : 600 เยน (ในฤดูใบไม้ร่วงช่วงกลางวัน 1000 เยน กลางคืน 600 เยน)
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Kyotoeki-mae นั่ง Kyoto City Bus สาย 5 ลงที่ Nanzenji,Eikando-michi ราคา 230 เยน หรือจากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งรถไฟสาย Tozai Line เปลี่ยนสายที่สถานี Karasuma-Oike มาลงที่สถานี Keage และเดินต่ออีกประมาณ 900 เมตร

วัด Nanzenji : มีพื้นที่กว้างขวางตั้งอยู่เชิงเขา Higashiyama และเป็นหนึ่งในวัดเซนที่สำคัญที่สุดในญี่ปุ่น ส่วนกลางของพื้นที่วัดจะเปิดให้เข้าชมได้ฟรี แต่จะมีอีกหลายส่วนที่จะเสียค่าเข้าชม และมีเวลาเปิด-ปิดแตกต่างกัน
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Kyotoeki-mae นั่ง Kyoto City Bus สาย 5 ลงที่ Nanzenji,Eikando-michi ราคา 230 เยน หรือจากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งรถไฟสาย Tozai Line เปลี่ยนสายที่สถานี Karasuma-Oike มาลงที่สถานี Keage และเดินต่ออีกประมาณ 400 เมตร

map-eastern-kyoto-2(แผนที่จาก Japanguide)
eastern-2(ภาพจาก Google)
วัด Shorenin : เป็นวัดนิกาย Tendai ของ Kyoto ตั้งอยู่ที่เชิงเขา Higashiyama เป็นหนึ่งในวัด Monzeki ซึ่งมีเจ้าอาวาสสืบเชื้อสายมากจากราชวงศ์ของญี่ปุ่น ถูกค้นพบเมื่อศตวรรษที่ 12
ค่าเข้าชม : 500 เยน
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00
(18.00 – 22.00 ช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง)
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Kyotoeki-mae นั่ง Kyoto City Bus สาย 5, 100 มาลงที่ Jingu-michi ราคา 230 เยน หรือจากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งรถไฟสาย Tozai Line เปลี่ยนสายที่สถานี Karasuma-Oike มาลงที่สถานี Higashiyama และเดินต่ออีกประมาณ 650 เมตร
วัด Chionin : เป็นวัดของพุทธศาสนาในญี่ปุ่น นิกาย Jodo และเป็นหนึ่งในนิกายพุทธศาสนาที่คนญี่ปุ่นนิยมมากที่สุด วัดมีบริเวณกว้างขวางและอาคารขนาดใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับวัด Shorenin
ค่าเข้าชม : ฟรี
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 0
9.00 – 16.30
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Kyotoeki-mae นั่ง Kyoto City Bus สาย 206 มาลงที่ Chionin-mae ราคา 230 เยน หรือจากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งรถไฟสาย Tozai Line เปลี่ยนสายที่สถานี Karasuma-Oike มาลงที่สถานี Higashiyama และเดินต่ออีกประมาณ 850 เมตร
วัด Kodaiji : เป็นวัดนิกาย Rinzai ของพระพุทธศาสนานิกายเซน สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1606 อาคารหลักถูกตกแต่งอย่างหรูหราและล้อมรอบด้วยสวนแบบเซนอย่างสวยงาม
ค่าเข้าชม : 600 เยน
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 0
9.00 – 17.30
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Kyotoeki-mae นั่ง Kyoto City Bus สาย 100, 206 มาลงที่ Higashiyama Yasui ราคา 230 เยน
ย่าน Higashiyama : เป็นย่านเก่าแก่ของ Kyoto อยู่ระหว่างวัด Kiyomizudera กับศาลเจ้า Yasaka สองข้างทางจะมีอาคารไม้ทรงโบราณแบบญี่ปุ่นดั้งเดิม ซึ่งมีร้านอาหาร ขนมและของพื้นเมืองขาย
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Kyotoeki-mae นั่ง Kyoto City Bus สาย 100, 206 มาลงที่ Kiyomizudera ราคา 230 เยน หรือนั่งรถไฟสาย Keihan Line มาลงที่สถานี Kiyomizu-Gojo หรือ Gion-Shijo และเดินต่ออีกประมาณ 10-15 นาที
วัด Kiyomizudera : เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของญี่ปุ่น สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 780 ซึ่งมีน้ำที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติจากน้ำตก Otowa และยังเป็นสถานที่ชมดอกซากุระ และใบไม้เปลี่ยนสีที่มีชื่อเสียงมากของ Kyoto (อาคารหลักของ Kiyomizudera กำลังได้รับการบูรณะซ่อมแซม ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2017 – มีนาคม 2020 แต่ก็สามารถเข้าไปเที่ยวชมภายในของอาคารได้)
ค่าเข้าชม : 400 เยน
เปิดทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 06
.00 – 18.00
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Kyotoeki-mae นั่ง Kyoto City Bus สาย 100, 206 มาลงที่ Gojo-zaka หรือ Kiyomizu-michi ราคา 230 เยน และเดินต่ออีกประมาณ 15 นาที หรือนั่งรถไฟสาย Keihan Line มาลงที่สถานี Kiyomizu-Gojo และเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที
3. Southern Kyoto (โซนใต้)
map-southern-kyoto(แผนที่จาก Japanguide)
southern(ภาพจาก Google)
ศาลเจ้า Fushimi-Inari : เป็นศาลเจ้าชินโตที่มีความสำคัญแห่งหนึ่งของ Kyoto ถูกสร้างขึ้นก่อนสร้างเมือง Kyoto ช่วงประมาณปี ค.ศ. 794 มีประตูโทริอิที่เรียงตัวกันด้านหลังศาลเจ้าจำนวนมากจนเป็นทางเดินทั่วทั้งภูเขา Inari ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักสิทธ์ มีเทพ Inari เป็นตัวแทนของความอุดมสมบูรณ์ของข้าว รวมทั้งพืชผลไร่นาต่างๆ และมักจะมีจิ้งจอกเป็นสัตว์คู่กาย เปิดทุกวัน ทุกเวลา ค่าเข้าชม : ฟรี
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งรถไฟสาย JR Nara Line ไปลงที่สถานี JR Inari ราคา 140 เยน
4. Northern Kyoto (โซนเหนือ)
map-northern-kyoto(แผนที่จาก Japanguide)
northern(ภาพจาก Google)
วัด Kinkakuji : หรือวัดทอง เป็นวัดนิกายเซนที่มีอาคารหลักที่เป็นสีทองตั้งอยู่กลางน้ำ ทำให้เกิดเป็นเป็นเงาสะท้อนกับน้ำในสระ และเป็นมุมที่มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจกันเยอะมาก
ค่าเข้าชม : 400 เยน เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 17.00
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Kyotoeki-mae นั่ง Kyoto City Bus สาย 101, 205 มาลงที่ Kinkakuji ราคา 230 เยน หรือจากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งรถไฟสาย Karasuma Line มาลงที่สถานี Kitaoji ราคา 260 เยน และต่อรถบัสสาย 101, 102, 204, 205 มาลงที่ Kinkakuji ราคา 230 เยน
วัด Ryoanji : วัดสวนหินที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากของ Kyoto เป็นสวนแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้าปูด้วยกรวดและมีก้อนหินตั้งเรียงรายกันอยู่ประมาณ 15 กอง
ค่าเข้าชม : 500 เยน
เปิดทำการ : ทุกวัน เวลา 08.00-17.00 (มีนาคม-พฤศจิกายน) และ 08.30-16.30 (ธันวาคม-กุมภาพันธ์)
การเดินทาง : เดินจากวัด Kinkakuji 5 นาที หรือนั่งรถบัส สาย 59

5. Western Kyoto (โซนตะวันตก)
map-western-kyoto (แผนที่จาก Japanguide)
western(ภาพจาก Google)
วัด Tenryuji : วัดนิกายเซน สร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1339 ซึ่งเป็นวัดที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในเขต Arashiyama
ค่าเข้าชม : 500 เยน เปิดทุกวัน เวลา : 8.30 – 17.30
การเดินทาง : จากสถานีรถบัส Kyotoeki-mae นั่ง Kyoto City Bus สาย 28 มาลงที่ Arashiyama ราคา 230 เยน หรือจากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งสาย JR Sagano Line มาลงที่สถานี JR Saga Arashiyama และเดินต่ออีกประมาณ 900 เมตร ราคา 240 เยน
สะพาน Togetsukyo : หรือเรียกว่า “Moon Crossing Bridge” เป็นเสมือนสัญลักษ์ของ Arashiyamaสร้างขึ้นในสมัย Heian และเป็นจุดชมซากุระที่สวยงามอีกจุดหนึ่งใน Kyoto สะพานนี้อยู่ใกล้วัด Tenryuji เปิดทุกวัน ทุกเวลา ค่าเข้าชม ฟรี
การเดินทาง : นั่งรถไฟสาย Keifuku Arashiyama Line มาลงที่สถานี Arashiyama และเดินต่ออีกประมาณ 250 เมตร
ป่าไผ่ : เป็นเส้นทางเดินเล็กๆ ที่ตัดผ่านสวนป่าไผ่ บริเวณใกล้ๆ จะมีร้านขายของพื้นเมือง เปิดทุกวัน ทุกเวลา ค่าเข้าชม ฟรี
การเดินทาง : จากสถานีรถไฟ Kyoto นั่งสาย JR Sagano Line มาลงที่สถานี JR Saga Arashiyama และเดินต่ออีกประมาณ 650 เมตร หรือ นั่งรถไฟสาย Keifuku Arashiyama Line มาลงที่สถานี Arashiyama และเดินต่ออีกประมาณ 450 เมตร

เมื่อเราเห็นภาพรวมของสถานที่ต่างๆ ภายใน Kyoto แล้ว คราวนี้เราก็เริ่มวางแผนกันได้ว่าจะเริ่มเที่ยวโซนไหนก่อน-หลัง อะไรยังไงดี จะได้ไม่ต้องเหาะเหินเดินอากาศกันให้เสียเวลา รถบัสหลักๆ ใน Kyoto มี 2 ประเภท คือ
1. Kyoto City Bus (คันสีเขียว) ส่วนใหญ่ก็นั่งคันนี้แหละ
2. Kyoto Bus (คันสีแดง)
เราอธิบายตามแผนที่เส้นทางรถบัส Kyoto City Bus อันนี้นะ
>> https://www2.city.kyoto.lg.jp/koho/eng/access/img/pdf/ENG150321(map)0309.pdf
screen-shot-2560-02-24-at-12-07-56-amสังเกตได้ว่าจะมีกรอบสีแดงนะฮะ คือ เราสามารถนั่งรถบัสได้ทุกเส้นทางภายในกรอบสีแดงฟรี เมื่อเราใช้ Kyoto City Bus & Kyoto Bus One-Day Pass ถ้านั่งออกจากพื้นที่ในกรอบสีแดง จะต้องเสียค่าโดยสารเพิ่ม (เดี๋ยวจะบอกรายละเอียดเกี่ยวกับ Pass อีกทีนะฮะ) ลักษณะของสายรถบัสที่วิ่งใน Kyoto มีลักษณะคล้ายสายรถไฟในเมือง Tokyo และ Osaka แบบทั่วไปเลย คือ สายที่วิ่งแบบจุดต่อจุด และสายที่วิ่งวนลูป
1. สายที่วิ่งแบบจุดต่อจุด คือ สายที่วิ่งข้ามฟาก จากโซนนึงไปอีกโซนนึง เช่น
สาย 10 วิ่งไป-กลับจากโซนเหนือ-ตะวันออก,
สาย 12 วิ่งไป-กลับจากโซนกลาง-ตะวันออก,
สาย 28 วิ่งไป-กลับจากโซนกลาง-ตะวันตก เป็นต้น
ซึ่งมีทั้งระยะทางสั้น-ยาวแตกต่างกัน ส่วนใหญ่จะเป็นสายตั้งแต่ เลขหลักเดียวจนถึงเลขหลัก 100 คือ
สาย 4,5,8,9 (จะวิ่งไปจนถึงชานเมือง Kyoto) สาย 10,11,12,17,26,28,32,46,50,59,91,93
ส่วนสายหลัก 100 มี 3 สายที่น่าสนใจ คือ
– สาย 100 (สีชมพู) วิ่งไป-กลับ จากสถานี Kyotoekimae – วัด Ginkakuji (วัดเงิน) ซึ่งเป็นเส้นทางที่วิ่งทางโซนตะวันออก จะผ่านวัดและศาลเจ้าที่สำคัญมากมาย
– สาย 101 (สีเขียวเข้ม) วิ่งไป-กลับ จากสถานี Kyotoekimae – วัด Kinkakuji (วัดทอง) เป็นเส้นทางที่วิ่งจากโซนกลางไปจนถึงโซนเหนือ
– สาย 102 (สีเขียวใบตอง) วิ่งไป-กลับ จาก วัด Kinkakuji (วัดทอง) – วัด Ginkakuji (วัดเงิน) เป็นเส้นทางที่วิ่งโซนเหนือไปจนถึงตะวันออก
ยกตัวอย่าง : ถ้าเราจะเที่ยวสถานที่หลักๆ ตั้งแต่โซนกลาง-เหนือ-ตะวันออก เราสามารถนั่งรถบัสทั้ง 3 สายนี้ได้ โดยเริ่มต้นที่สถานีรถบัส Kyotoekimae นั่งสาย 101 ไปโซนกลาง เที่ยวปราสาท Nijo และไปโซนเหนือ เที่ยววัด Kinkakuji (วัดทอง), วัด Ryoanji และนั่งสาย 102 ข้ามจากโซนเหนือไปตะวันออก ลงที่วัด Ginkakuji (วัดเงิน) สุดท้ายก็นั่งสาย 100 ในโซนตะวันออก เที่ยวย่าน Gion, วัด Kiyomizudera ก่อนกลับมายังสถานี Kyotoekimae (ดูแผนที่ประกอบไปด้วยก็ดีนะฮะ)

2. สายที่วิ่งวนลูป คือ สายที่วิ่งวนเป็นวงกลม ซึ่งมีทั้งลูปใหญ่และลูปเล็ก เช่น
สาย 201 จะวิ่งลูปเล็กตั้งแต่บริเวณโซนกลางไปจนถึงตะวันออก,
สาย 202 จะวิ่งลูปใหญ่กว่า 201 ซึ่งเป็นบริเวณโดยรวมภายใน Kyoto เป็นต้น
ส่วนใหญ่จะเป็นสายเลขหลัก 200 ขึ้นไป เช่น 201,202,203,204,205,206,207,208 เป็นต้น

3. สายอื่นๆ เช่น สาย 南5 คือ สายที่วิ่งลงโซนใต้ ผ่านศาลเจ้า Fushimi-Inari (แต่อาจจะต้องเดินต่ออีกหน่อย นั่งรถไฟสะดวกกว่า) หรือ สายรถบัส Kyoto Bus เป็นต้น
kyotoekimae
ถ้าใครดูแผนที่แล้วยังงงๆ ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนดี ให้ดูแผนที่อันนี้ก็ได้ฮะ
>> http://www2.city.kyoto.lg.jp/koho/eng/access/img/pdf/ENG160319(omote).pdf
เหมาะสำหรับคนที่วางแผนเที่ยวในพื้นที่หลักๆ ทั้ง 5 พื้นที่ ได้แก่
1. Kinkakuji/Kitano Area
2. Ginkakuji/Okazaji Area
3. Kiyomizudera/Gion Area
4. Kawaramachi/Karasuma Area
5. Arashiyama Area
ลองดูด้านล่างในเว็บนะฮะ จะมีตารางเทียบสายรถบัสและรถไฟ โดยดูจากต้นทาง-ปลายทาง ที่เราต้องการไป ซึ่งจะเชื่อมต่อกันทั้ง 5 พื้นที่
ตัวอย่าง 1 : ถ้าเราจะนั่งรถบัสจากวัด Ginkakuji ไปวัด Kiyomizudera ต้องนั่งรถบัสสายไหน? (นั่งรถบัสภายในโซนตะวันออก)
วิธีการเทียบ คือ ให้เราดูป้ายต้นทาง (ด้านซ้าย สีเขียว) และเทียบป้ายปลายทาง (ด้านบน สีฟ้า) ในที่นี่ คือ รถบัสสาย 100 และเราก็ต้องเดินต่อไปยังวัด Kiyomizudera อีกหน่อย
transferตัวอย่าง 2 : ถ้าเราจะนั่งรถบัสจาก Arashiyama ไปวัด Kinkakiji ต้องนั่งรถบัสสายไหน? (นั่งรถบัสจากโซนตะวันตกไปโซนเหนือ)
เราตัดภาพให้ดูง่ายๆ เลยเนอะ จากตารางบอกว่า ให้เราขึ้นรถบัสที่ป้าย Arashiyama หรือ Arashiyama Koen หรือ Arashiyama Tenryuji-mae นั่งสาย 93 (จะขึ้นป้ายไหนก็ได้ เพราะรถบัสสาย 93 ขับผ่านทั้ง 3 ป้าย) และไปเปลี่ยนสายเป็น 204 หรือ 205 ที่ป้าย Nishinokyo-Enmachi ไปลงที่ป้าย Kinkakuji-maearakinถ้าย้อนดูแผนที่รถบัส ก็จะเห็นว่าป้าย Nishinokyo-Enmachi ป้ายที่เราต้องเปลี่ยนรถอยู่ไม่ไกลจาก Arashiyama มากนัก
arakiตัวอย่าง 3 : ถ้าเราจะนั่งรถบัสจากวัด Kinkakuji ไป Gion ต้องนั่งรถบัสสายไหน? (นั่งรถบัสจากโซนเหนือไปโซนตะวันออก)
จากตารางเทียบให้เราขึ้นรถบัสที่ป้าย Kinkakuji-michi สาย 12 หรือ 59 ไปลงที่ป้าย Shijo Keihan-mae และเดินไปย่าน Gion อีกหน่อย
kingionหรือใครดูตารางเทียบด้านบนแล้วยังงงๆ ก็สามารถดูแผนที่เสริมอีกอันนึงได้นะฮะ จะมีตารางพื้นที่หลักๆใน Kyoto ซึ่งบอกสายรถบัสและรถไฟไปยังปลายทางต่างๆ
>>  http://inst.uno.edu/japan/docs/bus_navi_en.pdf
screen-shot-2560-02-24-at-12-08-39-amตัวอย่าง 4 : ถ้าเราจะนั่งรถบัสจากวัด Ginkakuji ไปวัด Kiyomizudera ต้องนั่งรถบัสสายไหน? (นั่งรถบัสภายในโซนตะวันออก)
เราก็หาตารางเฉพาะพื้นที่ Ginkakuji โดยขึ้นที่ป้าย Ginkakuji-Michi & Ginkakuji-mae ด้วยรถบัสสาย 100 และลงที่ป้าย Kiyomizu-michi และเราก็ต้องเดินต่อไปยังวัด Kiyomizudera อีกหน่อย
kin-kiyoตัวอย่าง 5 : ถ้าเราจะนั่งรถบัสจาก Arashiyama ไปวัด Ginkakuji ต้องนั่งรถบัสสายไหน? (นั่งรถบัสจากโซนตะวันตกไปโซนตะวันออก)
เราก็หาพื้นที่ Arashiyama โดยขึ้นที่ป้าย Arashiyama ด้วยรถบัสสาย 93 ไปลงที่ป้าย KirinShako-mae
screen-shot-2560-02-26-at-2-37-53-amและถ้าเราย้อนดูในแผนที่รถบัส จะเห็นว่าป้าย KirinShako-mae อยู่ห่างจากวัด Ginkakuji ถ้าใครไม่อยากเดินมากก็สามารถนั่งรถบัสสาย 32, 100 ต่อไปลงที่ป้าย Ginkakuji-mae หรือ Ginkakuji-michi ก็ได้
screen-shot-2560-02-26-at-3-05-44-amตัวอย่าง 6 : ถ้าเราจะนั่งรถบัสจากวัด Kiyomizudera ไปวัด Kinkakuji ต้องนั่งรถบัสสายไหน? (นั่งรถบัสจากโซนตะวันตกไปโซนตะวันออก)
เราต้องออกจากวัดมาที่ป้าย Kiyomizu-michi หรือ Gojo-zaka เราก็ดูพื้นที่ Higashiyama โดยขึ้นที่ป้าย แล้วขึ้นรถบัสสาย 202 หรือ 206 ไปลงที่ป้าย Kumanojinja-mae และเปลี่ยนเป็นสายเป็น 204 ไปลงที่ป้าย Kinkakuji-mae
screen-shot-2560-02-26-at-3-00-45-amลองย้อนดูแผนที่รถบัสกันดูว่า ป้าย Kumanojinja-mae อยู่ตรงไหน สังเกตได้ว่าป้าย Kumanojinja-mae ที่เราต้องเปลี่ยนสายเป็น 204 อยู่ไม่ไกลจากป้ายที่เราขึ้นมากนัก
screen-shot-2560-02-26-at-3-08-03-amแล้วเราจะรู้ได้ไงว่าป้ายรถบัสอยู่ตรงไหน ชื่ออะไร ลองดูเว็บ Arukumachikyoto นะฮะ มันสามารถค้นหาป้ายรถบัส สถานีรถไฟ และสถานที่ต่างๆ ภายใน Kyoto พร้อมทั้งบอกตำแหน่งบนแผนที่ สะดวกใช้งานง่าย น่าจะช่วยให้วางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น ลองดูนะฮะ
ค้นหาเส้นทางรถบัส รถไฟ และสถานที่ต่างๆ ภายใน Kyoto พร้อมบอกแผนที่การเดินทาง
>> http://www.arukumachikyoto.jp/static.php?page=bus_train_info&lang=en
ค้นหาป้ายรถบัส สถานีรถไฟ และสถานที่ต่างๆ บนแผนที่ Kyoto
>> http://www.arukumachikyoto.jp/map.php?lang=en
ค้นหาเส้นทางรถบัส Kyoto City Bus
>> http://www.arukumachikyoto.jp/citybus.php?lang=en
การขึ้น-ลงรถบัส : ขึ้นตรงกลาง ลงข้างหน้านะฮะ สังเกตที่หน้ารถจะมีสัญลักษณ์และรายละเอียดของรถแต่ละคันบอกไว้
screen-shot-2560-02-24-at-1-02-02-amถ้าใช้ Kyoto City Bus & Kyoto Bus One-Day Pass ในการลงรถครั้งแรก เราจะต้องสอดบัตรในช่องหมายเลข 4 เพื่อให้เครื่องบันทึกวันที่ใช้บัตร และการลงรถบัสในครั้งถัดไป เราแค่แสดงบัตรให้คนขับรถดูเท่านั้น
screen-shot-2560-02-26-at-2-34-12-amสถานี Kyotoekimae เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการเดินทาง เพราะเราต้องนั่งรถไฟมาลงที่สถานี JR Kyoto กันอยู่แล้ว 555+ จริงๆ แล้วมันครอบคลุมทุกเส้นทางหลักในทุกโซน และเวลาขึ้น-ลงรถบัสที่นี่ก็ให้สังเกตชานชาลาให้ดีด้วยนะฮะ จากแผนที่ เราจะเห็น Bus Information Center อยู่ด้านหน้าสถานีรถไฟ JR Kyoto สามารถไปซื้อ Pass ต่างๆ และอย่าลืมหยิบแผนที่รถบัสมาด้วยนะฮะ เป็นโบรชัวร์กางออกเป็นแผ่นใหญ่ ดูง่ายกว่าใน PDF มากเลยฮะ
platform-bus-kyotoต่อไปมาดู Pass ที่ใช้เดินทางกัน
1. Kyoto City Bus & Kyoto Bus One-Day Pass : สามารถนั่ง Kyoto City Bus และ Kyoto Bus ได้ทุกเส้นทางในพื้นที่กรอบสีแดงไม่จำกัด ตลอดทั้งวัน (พื้นที่ในกรอบสีแดงที่พูดเมื่อกี้ ในแผนที่ >> https://www2.city.kyoto.lg.jp/koho/eng/access/img/pdf/ENG150321(map)0309.pdf) และถ้าออกนอกพื้นที่จะต้องเสียค่าโดยสารเพิ่ม ราคาบัตร ผู้ใหญ่ 500 เยน เด็ก 250 เยน
screen-shot-2560-02-24-at-12-05-47-am2. Kyoto Sightseeing One and Two-day Pass : สามารถนั่ง Kyoto City buses และ Kyoto City Subway trains ได้ทุกสายไม่จำกัด และสามารถนั่งรถบัส Kyoto Bus ได้ แต่อาจจะเสียค่าโดยสารเพิ่ม มีให้เลือก 2 แบบ คือ One-day pass ราคาบัตร ผู้ใหญ่ 1,200 เยน เด็ก 600 เยน และ Two-day pass ราคาบัตร ผู้ใหญ่ 2,000 เยน เด็ก 1,000 เยน
screen-shot-2560-02-24-at-12-32-59-am
3. Kyoto Sightseeing One-day Pass (Yamashina-Daigo Area added) : สามารถนั่ง Kyoto City buses และ Kyoto City Subway trains ได้ทุกสาย เหมือนบัตรข้อ 2 แต่จะเพิ่มเส้นทางของรถบัส Keihan เฉพาะพื้นที่ Yamashina-Daigo ด้วย ราคาบัตร มีเฉพาะผู้ใหญ่ 1,300 เยน (บัตรนี้เหมาะสำหรับคนที่จะไปเที่ยววัด Daigoji ในพื้นที่โซนใต้ด้วย)
screen-shot-2560-02-24-at-12-47-25-am4. Kyoto City Subway One-day Pass : สามารถนั่งรถไฟ Kyoto City Subway trains (Karasuma Line & Tozai Line) ได้ทุกเส้นทางไม่จำกัด ตลอดทั้งวัน ราคาบัตร ผู้ใหญ่ 600 เยน เด็ก 300 เยน
screen-shot-2560-02-24-at-12-47-34-amแผนที่ Kyoto City Subway >> https://www2.city.kyoto.lg.jp/koho/eng/access/subway.html
ข้อมูลเพิ่มเติม >> http://www2.city.kyoto.lg.jp/koho/eng/access/transport.html
ขอจบรีวิวเพียงแค่นี้ หวังว่าจะมีเนื้อหาที่ช่วยในการวางแผนเที่ยวที่ Kyoto ได้บ้างนะฮะ ^^ ขาดตกบกพร่องอะไรก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยฮะ


machi-cat

One thought on “เที่ยว Kyoto นั่งรถบัสยังไงดี?

Leave a comment

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.